การใช้ A-An-The | Engkiz – Ep.063

การใช้ A – An – The

*ดูคำอธิบายแล้ว ลองกลับไปทำอีกรอบ จะได้จำได้มากขึ้นค่ะ 🙂

แบบทดสอบและเฉลยคำอธิบายเฉลย
1. It’s an animal.
(มันเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน”
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ  
2. I’m an engineer.  
(ฉันเป็นวิศวกร)
– ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ  
3. I need a new computer.  
(ฉันต้องการคอมฯใหม่สักเครื่อง)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน”
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ
4. There is a document on the table.  
(มีเอกสารหนึ่งฉบับบนโต๊ะนั้น)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน”
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ
5. Do you have an umbrella?  
(เธอมีร่มสักคันไหม)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน”
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ
6. I need an hour.
(ฉันต้องการ 1 ชม.)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน”
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แต่ออกเสียงสระ คำว่า hour /เอารฺ/ ออกเสียง o ไม่ใช่ h
7. It’s a useful machine.
(มันเป็นเครื่องจักรที่มีประโยชน์อันหนึ่ง)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน”
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ แต่ออกเสียงพยัญชนะ
( useful /ยูสฟึล/ ออกเสียง เราใช้ a นำ
แต่ถ้าเป็นคำว่า umbrella /อัมเบรลล่า/ ออกเสียง เราใช้ an นำ)
8. Is she an English teacher?
(หล่อนเป็นคุณครูภาษาอังกฤษใช่มั้ย)
 – ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ
 9. The Prime Minister visited our school.
(นายกมาเยี่ยมโรงเรียนเรา)
 – เราใช้ a/an เพื่อบอกจำนวนหรือบรรยายเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่กับ the จะคนละหน้าที่กัน เพราะเราใช้ the เพื่อระบุว่าเป็นสิ่งนั้นๆ
– เราใช้ the กับสิ่งที่คู่สนทนาเข้าใจตรงกันว่าหมายถึง“คนไหน/สิ่งไหน/อันไหน” หรือมีคำอธิบายที่เจาะจงลงไปว่าหมายถึงสิ่งนั้นเลย
– ข้อนี้ที่ใช้ the ก็เพราะเข้าใจตรงกันว่าพูดถึงนายกคนปัจจุบัน ซึ่งมีคนเดียว
 10. What’s the name of this street?
(ถนนนี้ชื่ออะไร)
 – เจาะจงชัดเจนว่าหมายถึงถนนเส้นนี้
 11. I’ve got a car.
(ฉันมีรถหนึ่งคัน)
– ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน”
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ออกเสียงพยัญชนะ
 12. Is there a hotel near here?
(มีโรงแรมใกล้แถวนี้สักโรงแรมมั้ย)
 – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน”
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ออกเสียงพยัญชนะ
13. We enjoyed our holiday.
the hotel was very nice.
(พวกเราสนุกกับวันหยุดของเรามากเลย โรงแรมนั้นคือดีมาก)
– ข้อนี้ต่างจากข้อ 12 คือ ข้อ 12 ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นโรงแรมไหน แค่อยากได้โรงแรมสักแห่งเพื่อเข้าพัก แต่ข้อ 13 นี้ คือเจาะจงว่าเป็นโรงแรมที่ไปพักมาเมื่อตอนไปเที่ยววันหยุด
14. Andrew is a student.
(แอนดริวเป็นนักเรียน)
– ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร
– ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ
15. Andrew is the youngest student in his class.
(แอนดริวเป็นนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดในห้องของเค้า)
– ใช้ the นำหน้าคำบอกขั้นสุด (superlative degree) เช่น the yougest student = นักเรียนที่เด็กที่สุด, the oldest student = นักเรียนที่แก่ที่สุด และ the tallest student = เด็กนักเรียนที่สูงที่สุด
16. What is the largest city in France?
(เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสคือเมืองอะไร)
– กรณีเดียวกับข้อ 15
17. Are you OK?
    I’ve got a headache.
(เธอสบายดีไหม
ฉันปวดหัว)
– ใช้ a นำหน้าอาการเจ็บป่วยบางอย่าง ในประโยคที่ใช้ I have/have got เช่น
I have got a stomachache.
I have got a cold.
I have got a fever.
18. Where’s the charger I lent you last week?
(สายชาร์จที่เราให้เธอยืมไปน่ะ อยู่ไหน)
– ใช้ the เพราะหมายถึงสายชาร์จอันที่ถูกยืมไป
19. It’s a nice morning.
    Let’s go for a walk.
(มันเป็นเช้าที่ดีนะ ออกไปเดินกันเถอะ)
– a nice morning … ใช้ a/an เพื่อบอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอย่างไร เช่น
It’s a nice day.
It’s a wonderful day.
It’s a bad day.

*กรณีจะใช้แบบนี้ อย่าลืมด้วยว่าต้องนำหน้านามเอกพจน์
20. Cathy’s brother works as an electrician.
(พี่ชายของเคธี่ทำงานเป็นช่างไฟ)
– ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ
21. After this tour you have the whole afternoon to explore the city.
(หลังจากทัวร์นี้ คุณมีเวลาตลอดทั้งบ่ายเพื่อเที่ยวชมเมือง)
– the แรก ระบุชัดเจนว่าเป็นช่วงบ่ายหลังจากทัวร์
– the ที่สอง ก็ระบุชัดเจนเช่นกันว่าเป็นเมืองที่มาทัวร์
22. The guavas are 49 Baht a kilo.
(ฝรั่งนี่กิโลกรัมละ 49 บาท)
– ใช้ a/an เพื่อบอกราคาต่อกิโล
23. His car does 150 miles an hour.
(รถของเค้าวิ่งได้ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง)
– เหมือนข้อ 22 คือใช้ a/an เพื่อบอกอัตรา
– และในข้อนี้ใช้ an เพราะ hour ออกเสียง o ไม่ใช่ h
24. Why are you sitting on the floor?
(เธอนั่งบนพื้นทำไม)
– ใช้ the เพราะชัดเจนว่าเป็นพื้นที่กำลังนั่งอยู่
25. Lucy is an interesting person. You must meet her.
(ลูซี่เป็นคนที่น่าสนใจคนนึง เธอต้องเจอหล่อน)
– ใช้ a/an เพื่อบอกว่าใครคนหนึ่งเป็นคนอย่างไร เช่น Nancy is a kind person.
– ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ
26. Can you turn off the radio, please?
(คุณช่วยปิดวิทยุหน่อยได้ไหม)
– คนพูดรู้ว่าคนฟังเข้าใจว่าหมายถึงวิทยุเครื่องไหน
(หมายถึงวิทยุที่กำลังเปิดอยู่แน่ๆ)
27. Please lock the door before leaving.
(กรุณาปิดประตูก่อนออกไป)
– กรณีนี้คล้ายกับข้อ 26 คือคนพูดและคนฟังเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงประตูไหน
28. Would you like to go to the moon?
(เธออยากไปดวงจันทร์มั้ย)
– เรารู้กันว่าหมายถึงพระจันทร์ดวงเดียวที่เราเห็นจากโลกนี้ (เราใช้ the moon, the sun, & the earth)
29. My shop is on the second floor.
(ร้านของฉันอยู่ที่ชั้นสอง)
– เราใช้ the กับลำดับที่ เช่น the first, the second, the third, the fourth
30. Alex and Alice have got two children, a boy and a girl, the boy is six years old and the girl is two.
(อเล็กซ์กับอลิซ มีลูกชายหนึ่งคน และลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายอายุหกขวบ และลูกสาวอายุสองขวบ)
– a สองอันแรกใช้เพื่อบอกจำนวน ว่ามีลูกชายหนึ่งคน และลูกสาวหนึ่งคน
– ส่วน the สองอันหลัง คือระบุถึงลูกชายและลูกสาวที่พูดถึงไปก่อนหน้าแล้ว

Engkiz ภาษาอังกฤษเพื่อทุกคน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *