การใช้ A – An – The
*ดูคำอธิบายแล้ว ลองกลับไปทำอีกรอบ จะได้จำได้มากขึ้นค่ะ 🙂
แบบทดสอบและเฉลย | คำอธิบายเฉลย |
1. It’s an animal. (มันเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน” – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
2. I’m an engineer. (ฉันเป็นวิศวกร) | – ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
3. I need a new computer. (ฉันต้องการคอมฯใหม่สักเครื่อง) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน” – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ |
4. There is a document on the table. (มีเอกสารหนึ่งฉบับบนโต๊ะนั้น) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกว่า”หนึ่งอัน/สิ่ง/คน” – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ |
5. Do you have an umbrella? (เธอมีร่มสักคันไหม) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน” – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
6. I need an hour. (ฉันต้องการ 1 ชม.) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน” – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แต่ออกเสียงสระ คำว่า hour /เอารฺ/ ออกเสียง o ไม่ใช่ h |
7. It’s a useful machine. (มันเป็นเครื่องจักรที่มีประโยชน์อันหนึ่ง) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน” – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ แต่ออกเสียงพยัญชนะ ( useful /ยูสฟึล/ ออกเสียง ย เราใช้ a นำ แต่ถ้าเป็นคำว่า umbrella /อัมเบรลล่า/ ออกเสียง อ เราใช้ an นำ) |
8. Is she an English teacher? (หล่อนเป็นคุณครูภาษาอังกฤษใช่มั้ย) | – ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
9. The Prime Minister visited our school. (นายกมาเยี่ยมโรงเรียนเรา) | – เราใช้ a/an เพื่อบอกจำนวนหรือบรรยายเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่กับ the จะคนละหน้าที่กัน เพราะเราใช้ the เพื่อระบุว่าเป็นสิ่งนั้นๆ – เราใช้ the กับสิ่งที่คู่สนทนาเข้าใจตรงกันว่าหมายถึง“คนไหน/สิ่งไหน/อันไหน” หรือมีคำอธิบายที่เจาะจงลงไปว่าหมายถึงสิ่งนั้นเลย – ข้อนี้ที่ใช้ the ก็เพราะเข้าใจตรงกันว่าพูดถึงนายกคนปัจจุบัน ซึ่งมีคนเดียว |
10. What’s the name of this street? (ถนนนี้ชื่ออะไร) | – เจาะจงชัดเจนว่าหมายถึงถนนเส้นนี้ |
11. I’ve got a car. (ฉันมีรถหนึ่งคัน) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน” – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ออกเสียงพยัญชนะ |
12. Is there a hotel near here? (มีโรงแรมใกล้แถวนี้สักโรงแรมมั้ย) | – ใช้ a/an เมื่อต้องการบอกจำนวน ”หนึ่งอัน” – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ ออกเสียงพยัญชนะ |
13. We enjoyed our holiday. the hotel was very nice. (พวกเราสนุกกับวันหยุดของเรามากเลย โรงแรมนั้นคือดีมาก) | – ข้อนี้ต่างจากข้อ 12 คือ ข้อ 12 ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นโรงแรมไหน แค่อยากได้โรงแรมสักแห่งเพื่อเข้าพัก แต่ข้อ 13 นี้ คือเจาะจงว่าเป็นโรงแรมที่ไปพักมาเมื่อตอนไปเที่ยววันหยุด |
14. Andrew is a student. (แอนดริวเป็นนักเรียน) | – ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร – ใช้ a กับคำที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ และออกเสียงพยัญชนะ |
15. Andrew is the youngest student in his class. (แอนดริวเป็นนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดในห้องของเค้า) | – ใช้ the นำหน้าคำบอกขั้นสุด (superlative degree) เช่น the yougest student = นักเรียนที่เด็กที่สุด, the oldest student = นักเรียนที่แก่ที่สุด และ the tallest student = เด็กนักเรียนที่สูงที่สุด |
16. What is the largest city in France? (เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสคือเมืองอะไร) | – กรณีเดียวกับข้อ 15 |
17. Are you OK? I’ve got a headache. (เธอสบายดีไหม ฉันปวดหัว) | – ใช้ a นำหน้าอาการเจ็บป่วยบางอย่าง ในประโยคที่ใช้ I have/have got เช่น I have got a stomachache. I have got a cold. I have got a fever. |
18. Where’s the charger I lent you last week? (สายชาร์จที่เราให้เธอยืมไปน่ะ อยู่ไหน) | – ใช้ the เพราะหมายถึงสายชาร์จอันที่ถูกยืมไป |
19. It’s a nice morning. Let’s go for a walk. (มันเป็นเช้าที่ดีนะ ออกไปเดินกันเถอะ) | – a nice morning … ใช้ a/an เพื่อบอกว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอย่างไร เช่น It’s a nice day. It’s a wonderful day. It’s a bad day. *กรณีจะใช้แบบนี้ อย่าลืมด้วยว่าต้องนำหน้านามเอกพจน์ |
20. Cathy’s brother works as an electrician. (พี่ชายของเคธี่ทำงานเป็นช่างไฟ) | – ใช้ a/an เมื่อบอกว่าทำอาชีพการงานอะไร – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
21. After this tour you have the whole afternoon to explore the city. (หลังจากทัวร์นี้ คุณมีเวลาตลอดทั้งบ่ายเพื่อเที่ยวชมเมือง) | – the แรก ระบุชัดเจนว่าเป็นช่วงบ่ายหลังจากทัวร์ – the ที่สอง ก็ระบุชัดเจนเช่นกันว่าเป็นเมืองที่มาทัวร์ |
22. The guavas are 49 Baht a kilo. (ฝรั่งนี่กิโลกรัมละ 49 บาท) | – ใช้ a/an เพื่อบอกราคาต่อกิโล |
23. His car does 150 miles an hour. (รถของเค้าวิ่งได้ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง) | – เหมือนข้อ 22 คือใช้ a/an เพื่อบอกอัตรา – และในข้อนี้ใช้ an เพราะ hour ออกเสียง o ไม่ใช่ h |
24. Why are you sitting on the floor? (เธอนั่งบนพื้นทำไม) | – ใช้ the เพราะชัดเจนว่าเป็นพื้นที่กำลังนั่งอยู่ |
25. Lucy is an interesting person. You must meet her. (ลูซี่เป็นคนที่น่าสนใจคนนึง เธอต้องเจอหล่อน) | – ใช้ a/an เพื่อบอกว่าใครคนหนึ่งเป็นคนอย่างไร เช่น Nancy is a kind person. – ใช้ an กับคำที่ขึ้นต้นด้วยสระ และออกเสียงสระ |
26. Can you turn off the radio, please? (คุณช่วยปิดวิทยุหน่อยได้ไหม) | – คนพูดรู้ว่าคนฟังเข้าใจว่าหมายถึงวิทยุเครื่องไหน (หมายถึงวิทยุที่กำลังเปิดอยู่แน่ๆ) |
27. Please lock the door before leaving. (กรุณาปิดประตูก่อนออกไป) | – กรณีนี้คล้ายกับข้อ 26 คือคนพูดและคนฟังเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงประตูไหน |
28. Would you like to go to the moon? (เธออยากไปดวงจันทร์มั้ย) | – เรารู้กันว่าหมายถึงพระจันทร์ดวงเดียวที่เราเห็นจากโลกนี้ (เราใช้ the moon, the sun, & the earth) |
29. My shop is on the second floor. (ร้านของฉันอยู่ที่ชั้นสอง) | – เราใช้ the กับลำดับที่ เช่น the first, the second, the third, the fourth |
30. Alex and Alice have got two children, a boy and a girl, the boy is six years old and the girl is two. (อเล็กซ์กับอลิซ มีลูกชายหนึ่งคน และลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายอายุหกขวบ และลูกสาวอายุสองขวบ) | – a สองอันแรกใช้เพื่อบอกจำนวน ว่ามีลูกชายหนึ่งคน และลูกสาวหนึ่งคน – ส่วน the สองอันหลัง คือระบุถึงลูกชายและลูกสาวที่พูดถึงไปก่อนหน้าแล้ว |
Engkiz ภาษาอังกฤษเพื่อทุกคน